รัชพล แขมภูเขียว

เกษตรกร📍 bangkok
7โพสต์
0ผู้ติดตาม
1กำลังติดตาม
7คะแนน

บำรุงยังไงดีครับ

ป้าเช็งสอนหมัก

AI ป้าเช็ง

โอ้โห... ว่าไงจ๊ะพ่อหนุ่ม จากที่ป้าเช็งดูในรูปนะ นี่มันต้นมันสำปะหลังนี่นา ใบมีจุดๆ แถมมีใบแห้งด้วย ไม่ต้องกังวลไปนะจ๊ะ ปัญหานี้จัดการได้จ้ะ

อาการแบบนี้เกิดได้จาก 2-3 สาเหตุนะ แต่หลักๆ คือ โรคใบจุด ที่มาจากเชื้อรา กับอาจจะ ขาดธาตุอาหาร ไปหน่อยนึง

ป้าเช็งแนะให้บำรุงตามนี้เลย ได้ผลดีนักแล:

  1. จัดการใบที่เป็นโรค: เด็ดใบที่เป็นจุดๆ สีน้ำตาลกับใบที่แห้งเหี่ยวทิ้งให้หมดเลยนะ แล้วเอาไปเผาหรือทิ้งไกลๆ แปลง อย่าให้เชื้อรามันลามไปติดใบอื่น
  2. บำรุงดิน เพิ่มอาหาร: ต้นมันของเราเริ่มอยากกินปุ๋ยแล้วล่ะ ให้หา ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่าๆ มาใส่รอบโคนต้น แล้วพรวนดินกลบเบาๆ จะช่วยให้ดินดี ต้นแข็งแรง ต้านทานโรคได้ดีขึ้น หรือถ้าจะใช้ปุ๋ยเคมีก็ให้เน้นสูตรที่มีตัวท้ายสูงๆ (โพแทสเซียม) อย่าง 13-13-21 หรือ 15-7-18 จะช่วยระเบิดหัวมันให้ใหญ่ๆ เลยจ้ะ
  3. ดูแลรอบๆ โคนต้น: หมั่นถอนหญ้า อย่าให้ขึ้นรกนะ เพราะมันจะมาแย่งทั้งน้ำทั้งปุ๋ยจากต้นมันของเรา

ทำตามนี้แหละจ้ะ รับรองว่าต้นมันสำปะหลังจะกลับมางาม แตกใบใหม่เขียวสดใส เตรียมลงหัวใหญ่ๆ แน่นอน! มีอะไรสงสัยก็มาถามป้าได้อีกนะจ๊ะ สู้ๆ

มือใหม่พึ่งเคยปลูกมะนาวครับ แก้ไง

ป้าเช็งสอนหมัก

AI ป้าเช็ง

โอ๊ย...หลานเอ๊ย ไม่ต้องตกใจไป ป้าเห็นแล้วรู้เลย! อาการแบบนี้มือใหม่เจอกันบ่อย ที่ใบมะนาวของหลานเป็นอยู่นี่ เขาเรียกว่า "โรคแคงเกอร์" จ้ะ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ยิ่งหน้าฝนชื้นๆ ยิ่งระบาดง่าย ไม่ต้องกังวลนะ ป้ามีวิธีแก้ให้ง่ายๆ ได้ใจความ

วิเคราะห์สาเหตุ: โรคนี้มาจากเชื้อแบคทีเรียที่มากับลมและฝน พอใบมะนาวเรามีแผลเล็กๆ น้อยๆ จากแมลง (โดยเฉพาะหนอนชอนใบ) หรือลมพัดใบเสียดสีกัน เชื้อมันก็จะเข้าไปได้ง่าย

วิธีแก้ไขแบบเร่งด่วน:

  1. ตัดทิ้งทันที: ใบ กิ่ง หรือส่วนไหนที่เป็นจุดๆ แบบนี้ ให้ใช้กรรไกรคมๆ ตัดออกให้หมด แล้วเอาไปเผาไฟหรือทิ้งขยะให้ไกลจากต้น ห้ามทิ้งไว้ใต้ต้นเด็ดขาด! เพราะเชื้อจะกระจายต่อได้
  2. ทำความสะอาดเครื่องมือ: กรรไกรที่ใช้ตัดต้องเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ก่อนและหลังใช้ทุกครั้ง ป้องกันการลามไปต้นอื่น

วิธีป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีก:

  1. ฉีดพ่นป้องกัน: หาสารจำพวก "คอปเปอร์" (เช่น คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์) มาผสมน้ำฉีดพ่นให้ทั่วทั้งต้น โดยเฉพาะช่วงที่มะนาวแตกใบอ่อนและช่วงที่ฝนตกชุก จะช่วยป้องกันเชื้อได้ดีมาก
  2. ตัดแต่งให้โปร่ง: ดูแลตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่งๆ แสงแดดส่องถึง ลมพัดผ่านได้สะดวก ใบจะได้ไม่ชื้นแฉะนาน เป็นการลดที่อยู่ของเชื้อโรค
  3. บำรุงให้แข็งแรง: ต้นไม้ที่แข็งแรงจะต้านทานโรคได้ดี ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักสม่ำเสมอ ดินดี ต้นแข็งแรง โรคก็ไม่ถามหาจ้ะ

จำไว้นะหลาน การป้องกันดีกว่าการรักษาเสมอ มือใหม่ก็เป็นกันทั้งนั้นแหละ ค่อยๆ เรียนรู้ไปนะ มีอะไรมาถามป้าได้อีก สู้ๆ

เป็นโรคอะไรคะ แก้ยังไงคะ มือใหม่ปลูกมะนาว

ป้าเช็งสอนหมัก

AI ป้าเช็ง

สวัสดีจ้ะหลาน... ป้าเช็งสอนหมักมาแล้ว ไม่ต้องกังวลนะ มือใหม่ก็แบบนี้แหละจ้ะ ค่อยๆ เรียนรู้กันไป

ดูจากรูปแล้ว ใบมะนาวที่หงิกๆ งอๆ บิดเบี้ยวเป็นเส้นๆ แบบนี้ ส่วนใหญ่เกิดจาก "หนอนชอนใบ" จ้ะ เป็นตัวอ่อนของผีเสื้อกลางคืนตัวเล็กๆ ที่มาวางไข่ไว้ที่ยอดอ่อน พอมันฟักเป็นตัวหนอนก็จะชอนไชเข้าไปกินอยู่ข้างในใบ ทำให้ใบเสียหายแล้วก็ม้วนงอเพื่อป้องกันตัวเอง

ไม่ต้องตกใจนะ ปัญหานี้เจอกันบ่อย แก้ไม่ยากจ้ะ ลองทำตามนี้ดูนะ

วิธีแก้ไขและป้องกัน

  1. ตัดทิ้งทันที: ใบไหนที่โดนทำลายไปแล้ว ให้เด็ดหรือตัดส่วนนั้นทิ้งไปเลยนะลูก แล้วเอาไปเผาหรือทิ้งถังขยะให้ไกลๆ อย่าทิ้งไว้ใต้ต้นเด็ดขาด เพราะตัวหนอนมันจะโตเป็นผีเสื้อแล้วกลับมาวางไข่ใหม่
  2. ใช้น้ำมันสะเดา: อันนี้เป็นวิธีธรรมชาติ ปลอดภัยดี ไปหาซื้อ "น้ำมันสะเดา" มาผสมน้ำตามฉลาก (อาจจะผสมน้ำยาล้างจานไปนิดหน่อยให้น้ำมันจับใบได้ดี) แล้วฉีดพ่นให้ทั่ว โดยเฉพาะยอดอ่อนๆ และใต้ใบ ฉีดช่วงเย็นๆ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้แม่ผีเสื้อมาวางไข่
  3. บำรุงต้นให้แข็งแรง: ต้นมะนาวที่แข็งแรงจะทนทานต่อแมลงได้ดีกว่า ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักบำรุงดิน รดน้ำสม่ำเสมอ แต่อย่าให้แฉะเกินไปนะจ๊ะ พอต้นมะนาวเราแตกยอดใหม่พร้อมกันเยอะๆ แมลงจะทำลายได้ไม่ทั่วถึง ความเสียหายก็จะน้อยลง

ข้อแนะนำสำหรับมือใหม่: ช่วงที่มะนาวกำลังแตกใบอ่อน เป็นช่วงที่หนอนชอนใบชอบที่สุด ให้คอยสังเกตและฉีดพ่นน้ำมันสะเดาป้องกันไว้ก่อนเลย จะได้ใบสวยๆ จ้ะ

ไม่ต้องกังวลนะ ปลูกใหม่ๆ ก็ต้องเจอปัญหาบ้างเป็นธรรมดา สู้ๆ นะจ๊ะ มีอะไรให้ป้าช่วยอีกก็ถามมาได้เลย

เกิดอะไรขึ้นครับ

ป้าเช็งสอนหมัก

AI ป้าเช็ง

โอ๊ยตายแล้ว! ลูกเอ๊ย... ใบไม้ของหนูโดน "โรคราแป้ง" เล่นงานเข้าให้แล้วล่ะ ไม่ต้องตกใจนะ ป้าเช็งเจอมาบ่อย จัดการได้จ้ะ

มันคืออะไร? มันเป็นเชื้อราที่ชอบมาตอนอากาศชื้นๆ แต่ใบแห้งๆ ลมพัดทีสปอร์ก็ปลิวไปทั่วสวนเลย มันจะดูดน้ำเลี้ยงจากใบ ทำให้ใบเหลือง สังเคราะห์แสงไม่ได้ ต้นก็จะโทรม ผลผลิตก็น้อยลง

วิธีจัดการแบบเร่งด่วนของป้าเช็ง:

  1. ตัดทิ้ง: รีบตัดใบที่เป็นโรคหนักๆ ออกไปทิ้งไกลๆ แปลงเลยนะ อย่าเอาไปทำปุ๋ยหมัก เด็ดขาด เดี๋ยวเชื้อราจะกระจาย
  2. พ่นด้วยสูตรชีวภาพ: เลือกเอาสักสูตรนะลูก
    • สูตรเบกกิ้งโซดา: เอาเบกกิ้งโซดา (ที่ทำขนม) 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา + น้ำเปล่า 4-5 ลิตร ผสมให้เข้ากันดี แล้วฉีดพ่นให้ทั่วทั้งบนใบใต้ใบ ฉีดตอนเย็นๆ แดดอ่อนๆ นะจ๊ะ พ่นซ้ำทุก 5-7 วัน
    • สูตรเชื้อราไตรโคเดอร์มา: อันนี้ดีมาก เป็นเชื้อราดีไปกินเชื้อราร้าย หาซื้อแบบผงมาผสมน้ำตามฉลาก แล้วฉีดพ่นให้ทั่วทั้งต้นและดิน จะช่วยป้องกันโรคอื่นได้ด้วย

วิธีป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีก:

  • ให้โปร่งโล่ง: ปลูกพืชอย่าให้แน่นเกินไป ตัดแต่งกิ่งใบข้างล่างออกบ้าง ให้ลมพัดผ่านได้สะดวก ความชื้นจะได้ไม่สะสม
  • รดน้ำที่โคน: พยายามอย่ารดน้ำให้โดนใบโดยตรง ถ้ารดตอนเช้าจะดีที่สุด ใบจะได้แห้งทันก่อนค่ำ

ลองเอาวิธีของป้าไปใช้ดูนะ ได้ผลยังไงมาเล่าให้ฟังบ้าง สู้ๆ นะลูก

ตื่นเช้ามาก็เป็นแบบนี้แล้ว ทำไงดีครับ

ป้าเช็งสอนหมัก

AI ป้าเช็ง

โอ๊ย... เห็นแล้วใจคอไม่ดีเลยลูกเอ๊ย ตื่นมาเจอพริกเหี่ยวสลดแบบนี้ ป้าเข้าใจเลย ไม่ต้องตกใจนะ เรามาค่อยๆ ดูกันไปทีละอย่าง

อาการแบบนี้เรียกว่า "อาการเหี่ยว" จ้ะ หลักๆ เลยคือ รากไม่สามารถดูดน้ำไปเลี้ยงลำต้นกับใบได้ทัน ซึ่งมันเกิดได้จากหลายสาเหตุนะ

ก่อนอื่นเลย ให้ลูกลองเช็คตามนี้ด่วนๆ:

  1. เช็คความชื้นในดิน: เอามือล้วงลงไปใต้พลาสติกที่คลุมดิน ลองจิ้มดินดูลึกๆ สักหน่อย
    • ถ้าดินแห้งแข็ง: แสดงว่า ขาดน้ำ ชัดเจนเลย! อาจจะเพราะระบบน้ำมีปัญหา หรืออากาศร้อนจัดจนน้ำระเหยเร็ว รีบให้น้ำโดยด่วนเลยนะ ถ้าต้นยังไม่ตายสนิท เดี๋ยวพอได้น้ำก็จะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาเอง
    • ถ้าดินยังแฉะหรือชื้นอยู่: อันนี้น่าเป็นห่วงกว่า แปลว่าไม่ใช่แค่ขาดน้ำ แต่อาจจะเป็นปัญหาที่ระบบรากหรือลำต้นโดยตรง

ถ้าเช็คแล้วดินยังชื้น แต่ต้นยังเหี่ยว ให้สันนิษฐาน 2 โรคหลักนี้:

  1. โรครากเน่า-โคนเน่า: เกิดจากเชื้อราในดินที่ชอบความชื้นแฉะ มันจะเข้าไปทำลายระบบราก ทำให้รากดูดน้ำไม่ได้ สังเกตง่ายๆ คือ ลองโยกโคนต้นเบาๆ ถ้าต้นคลอนง่ายผิดปกติ หรือเห็นรอยช้ำๆ สีน้ำตาลเข้มที่โคนต้นติดดิน แสดงว่าใช่เลย

    • วิธีแก้: โรคนี้รักษายากมาก ถ้าเป็นแล้วมักไม่รอด ให้รีบถอนต้นที่เป็นโรคทิ้งไปเผาทำลาย อย่าทิ้งไว้ในแปลง เดี๋ยวเชื้อจะลามไปต้นอื่น แล้วใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาผสมน้ำราดโคนต้นที่เหลือเพื่อป้องกันไว้
  2. โรคเหี่ยวเขียว: เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เข้าไปอุดตันท่อลำเลียงน้ำในลำต้น อาการคือต้นจะเหี่ยวอย่างรวดเร็วทั้งๆ ที่ใบยังเขียวสดอยู่เลย และมักจะเหี่ยวตอนกลางวัน พอตกกลางคืนอาจจะดูดีขึ้นนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็จะตายอยู่ดี

    • วิธีแก้: เหมือนโรครากเน่าเลยลูก คือ ต้องถอนทิ้งสถานเดียว เพื่อป้องกันการระบาด

สรุปสั้นๆ นะลูก:

  • อันดับแรก: เช็คดิน ถ้าแห้ง -> รีบให้น้ำ
  • อันดับสอง: ถ้าดินชื้นแต่ยังเหี่ยว -> สงสัย โรครากเน่า/เหี่ยวเขียว -> รีบถอนทิ้ง ป้องกันลามไปทั้งแปลง

ลองตรวจสอบดูนะ ได้เรื่องยังไงมาบอกป้าได้ สู้ๆ นะลูก

อาการนี้แก้ยังไง

ป้าเช็งสอนหมัก

AI ป้าเช็ง

โอ้โห... ใบเป็นแบบนี้เหรอลูก ไม่ต้องตกใจนะ ป้าเช็งดูแล้วรู้เลย!

อาการแบบนี้เขาเรียกว่า โรคราสนิมขาว (White Rust) จ้ะ มักจะเกิดกับพืชตระกูลกะหล่ำ เช่น คะน้า กวางตุ้ง ผักกาดขาว เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่งที่ชอบอากาศเย็นๆ ชื้นๆ ไม่ต้องกังวลนะลูก ปัญหานี้แก้ได้จ้ะ

วิธีแก้ไขตามสไตล์ป้าเช็ง

  1. จัดการด่วน: รีบเด็ดใบที่เป็นโรคหนักๆ ออกไปเลยนะลูก แล้วเอาไปทิ้งไกลๆ แปลง หรือเอาไปเผาทำลายได้ยิ่งดี อย่าทิ้งไว้แถวนั้นเด็ดขาด เดี๋ยวเชื้อรามันจะปลิวไปติดต้นอื่น
  2. ทำให้โปร่ง: ดูแลให้แปลงปลูกของเราโปร่งๆ ลมพัดผ่านได้สะดวก แสงแดดส่องถึง จะช่วยลดความชื้นที่ใบ ทำให้เชื้อราไม่ชอบ
  3. รดน้ำให้ถูกวิธี: เวลารดน้ำ พยายามรดที่โคนต้น อย่ารดให้โดนใบโดยตรง โดยเฉพาะตอนเย็นๆ เพราะถ้าใบเปียกแฉะข้ามคืน เชื้อราจะชอบมาก

สูตรเด็ดของป้าเช็ง (เลือกใช้ได้เลยจ้ะ)

  • สูตร 1: ไตรโคเดอร์มา หาซื้อ "เชื้อราไตรโคเดอร์มา" (เป็นเชื้อราดี) มาผสมน้ำตามฉลาก แล้วฉีดพ่นให้ทั่วทั้งบนใบและใต้ใบเลยนะลูก ฉีดช่วงเย็นๆ จะดีที่สุด เขาจะไปช่วยจัดการกับเชื้อราร้ายให้เรา
  • สูตร 2: น้ำปูนใส หรือ เบกกิ้งโซดา
    • น้ำปูนใส: เอาปูนแดงกินหมากมาผสมน้ำแล้วทิ้งให้ตกตะกอน เอาน้ำใสๆ ด้านบนมาผสมน้ำอีกที (น้ำปูนใส 1 ส่วน ต่อน้ำ 20 ส่วน) แล้วฉีดพ่น
    • เบกกิ้งโซดา (ผงฟู): ใช้ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 2-3 ลิตร หยดน้ำยาล้างจานไปนิดหน่อย (ช่วยให้เกาะใบ) แล้วฉีดพ่นตอนเช้าหรือเย็น

คำแนะนำจากใจป้า: พอเก็บเกี่ยวรุ่นนี้หมดแล้ว รอบหน้าให้สลับไปปลูกพืชชนิดอื่นก่อนนะลูก อย่าปลูกพืชตระกูลกะหล่ำซ้ำที่เดิมทันที เป็นการตัดวงจรของโรคที่ดีที่สุดเลยจ้ะ

ลองเอาวิธีของป้าไปทำดูนะลูก สู้ๆ จ้ะ! มีอะไรถามป้าได้อีกนะ

รักษายังไงครับ

ป้าเช็งสอนหมัก

AI ป้าเช็ง

โอ้โฮ... เห็นแล้วป้าเช็งปวดใจแทนเลยลูกเอ๊ย!
ไม่เป็นไรนะ ป้าเช็งมาแล้ว เดี๋ยวเรามาช่วยกันดูแลกะหล่ำปลีของหนูให้หายดีจ้ะ 💚

อาการแบบนี้ในกะหล่ำปลี เขาเรียกว่า “โรคราน้ำค้าง” (Downy mildew) นะลูกนะ
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา พออากาศเย็นชื้น หรือฝนตกบ่อยๆ เจ้านี่จะระบาดเร็วมาก
ใบจะมีจุดเหลืองซีด ๆ ด้านบน พอพลิกดูใต้ใบจะเห็นเป็นผงสีเทา ๆ เหมือนฝุ่น
เชื้อรามันจะขยายไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่รีบจัดการ ใบจะเหี่ยวแห้งหมดทั้งแปลงเลยลูก


🌿 วิธีแก้ไขเบื้องต้น

  1. ตัดใบทิ้งทันที:
    ใบที่เป็นเยอะ ๆ ให้ตัดออกแล้วเอาไปเผาทำลายนอกแปลง
    ห้ามทิ้งไว้ใกล้ต้นดี ๆ เด็ดขาด เพราะสปอร์ของเชื้อราจะปลิวไปติดต้นอื่นได้ง่ายมาก

  2. ใช้เชื้อราดีปราบเชื้อราร้าย:
    ไปหาซื้อ เชื้อราไตรโคเดอร์มา (Trichoderma) มาผสมน้ำตามฉลาก
    แล้วฉีดพ่นให้ทั่วทั้งต้น โดยเฉพาะใต้ใบ
    ฉีดช่วงเย็น ๆ ที่แดดอ่อน ทำสัก 2–3 ครั้ง ห่างกัน 5–7 วัน
    จะช่วยยับยั้งการระบาดได้ดีเลยจ้ะ

  3. สูตรบ้าน ๆ จากของในครัว:
    ถ้าไม่มีไตรโคเดอร์มา ลองใช้น้ำยาผสมเองได้เลย

    • ผสม เบกกิ้งโซดา 2–3 ช้อนโต๊ะ ในน้ำ 10 ลิตร
    • เติมน้ำยาล้างจานหยดสองหยดเป็นสารจับใบ
    • ฉีดพ่นช่วงเย็น ๆ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
      จะช่วยลดการเจริญของเชื้อราได้ดีเหมือนกันจ้ะ

🌱 การป้องกันสำหรับรอบต่อไป

  • อย่าปลูกแน่นเกินไป: เว้นระยะให้ลมพัดผ่านสะดวก จะได้ไม่อับชื้น
  • รดน้ำที่โคนต้น: อย่ารดโดนใบโดยไม่จำเป็น เพราะความชื้นที่ค้างบนใบจะทำให้เชื้อราระบาดได้ง่าย
  • บำรุงดินและต้นให้แข็งแรง: ใช้ปุ๋ยคอกหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ ช่วยให้ต้นแข็งแรง ทนโรคได้ดีขึ้น

ลองทำตามนี้ดูนะลูกนะ 🌿
โรคราน้ำค้างนี่ถ้ารู้ทันและจัดการเร็ว ยังพอรักษาได้ไม่ยากเลยจ้ะ 💪
ทำแล้วได้ผลยังไง มาเล่าให้ป้าเช็งฟังบ้างนะ ❤️

คุณได้ดูโพสต์ทั้งหมดแล้ว 🌱

ป้าเช็งสอนหมัก