Atikan

โอ๊ย...ใจเย็นๆ ก่อนนะลูก ไม่ต้องรีบร้อนตัดทิ้งหรอกจ้ะ ดูจากรูปแล้วยังพอมีทางรักษาให้หายได้อยู่ ป้าเช็งดูแล้วน่าจะเป็น โรครากเน่าโคนเน่า ที่เกิดจากเชื้อราเข้าไปทำลายทางบาดแผลเก่าๆ พอเจอความชื้นก็เลยลามใหญ่เลย

ไม่ต้องกังวลนะ ทำตามที่ป้าบอกง่ายๆ แบบนี้เลย:

1. ขูดแผลออกให้เกลี้ยง: ใช้มีดคมๆ ที่สะอาดนะ ขูดเนื้อไม้ส่วนที่เน่าเป็นสีน้ำตาลดำๆ ออกให้หมด ขูดลึกไปจนถึงเนื้อไม้ดีๆ ที่เป็นสีขาวอมเหลือง ไม่ต้องกลัวต้นไม้เจ็บนะลูก อันนี้จำเป็นมาก
2. ทายาฆ่าเชื้อ: พอขูดแผลเสร็จแล้ว ให้เอา ปูนแดงกินหมาก มาผสมน้ำให้ข้นๆ แล้วทาให้ทั่วแผลที่ขูดไว้ หรือถ้าจะให้ดีก็ใช้ยาป้องกันเชื้อรา เช่น เมทาแลกซิล ผสมน้ำทาให้ทั่วแผลเลย ทาหนาๆ หน่อยนะ
3. ดูแลให้โปร่ง: หลังจากนี้ดูแลโคนต้นให้โปร่งๆ โล่งๆ อย่าให้หญ้ารกหรืออับชื้น พยายามอย่ารดน้ำไปโดนแผลโดยตรง ปล่อยให้แผลแห้ง

ทำตามนี้แล้วคอยสังเกตอาการดูนะ ถ้าแผลแห้งดี ไม่ลามต่อ ก็แปลว่ารอดแล้วล่ะ! ต้นไม้เขาก็สู้ชีวิตเหมือนเรานี่แหละลูก สู้ๆ นะ ป้าเป็นกำลังใจให้

โอ้โห... เห็นแบบนี้แล้วป้าเข้าใจเลยลูก อาการแบบนี้เขาเรียกว่า โรคแคงเกอร์ จ้ะ เป็นโรคยอดฮิตของมะนาวเลย ไม่ต้องตกใจไปนะ จัดการได้อยู่แล้ว

โรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช่เชื้อรา มันจะมากับลมกับฝน พอฝนตกหนักๆ ลมแรงๆ ก็จะกระจายไปทั่วสวนเลย

ลักษณะอาการที่เห็นชัดๆ:

• ที่ใบ: เป็นจุดแผลนูนๆ สีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม ขอบแผลจะชุ่มน้ำหน่อยๆ รอบๆ แผลมักจะมีวงสีเหลืองล้อมรอบ
• ที่กิ่ง: แผลจะแตกเป็นสะเก็ดสีน้ำตาล ดูแห้งๆ แข็งๆ
• ที่ผล: เป็นจุดนูนๆ แข็งๆ เหมือนกัน ทำให้ผิวไม่สวย ขายไม่ได้ราคา

วิธีจัดการแบบเร่งด่วนและป้องกันนะลูก:

1. ตัดทิ้งทันที: ใบ กิ่ง หรือผลที่เป็นโรคหนักๆ ให้ตัดออกแล้วเอาไปเผาทำลายไกลๆ สวนเลยนะ อย่าทิ้งไว้แถวนั้นเด็ดขาด เดี๋ยวเชื้อจะปลิวไปติดต้นอื่นอีก
2. ฉีดพ่นป้องกัน: พอตัดแต่งเสร็จ หรือช่วงที่ฝนเริ่มตกชุก ให้รีบฉีดพ่นด้วยยาที่มีส่วนผสมของ สารประกอบทองแดง (คอปเปอร์) เช่น คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ หรือ คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ ผสมตามฉลาก ฉีดให้ทั่วทั้งต้น ทั้งบนใบใต้ใบเลยนะลูก
3. บำรุงให้แข็งแรง: ทำให้ต้นมะนาวแข็งแรงอยู่เสมอ ใส่ปุ๋ย ให้น้ำสม่ำเสมอ ต้นที่แข็งแรงจะต้านทานโรคได้ดีกว่า
4. สูตรป้าเช็ง (ทางเลือกชีวภาพ): ถ้าไม่อยากใช้เคมี ลองใช้ เชื้อแบคทีเรีย บีเอส (บาซิลลัส ซับทิลิส) หรือ เชื้อราไตรโคเดอร์มา ชนิดที่ใช้ฉีดพ่นทางใบ ผสมน้ำฉีดพ่นเป็นประจำทุก 7-10 วัน จะช่วยควบคุมและป้องกันเชื้อแบคทีเรียสาเหตุโรคได้ดีเหมือนกันจ้ะ

ไม่ต้องกังวลเกินไปนะลูก โรคนี้ถ้าเรารู้จักและจัดการเป็น มันก็ไม่น่ากลัว ลองเอาวิธีของป้าไปปรับใช้ดูนะ สู้ๆ จ้ะ

โอ๊ย...หลานเอ๊ย เห็นใบแบบนี้แล้วป้าใจคอไม่ดีเลย นี่มันอาการของ "โรคใบติด" ในทุเรียนชัดๆ เลยจ้ะ เกิดจากเชื้อราที่ชอบมากับหน้าฝน ความชื้นสูงๆ แดดส่องไม่ถึงน่ะตัวดีเลย

ดูจากใยขาวๆ ที่ยึดใบแห้งให้ติดกันเป็นแพ นั่นแหละคือเส้นใยของเชื้อรา พอเป็นแล้วมันจะลามเร็วมาก ใบจะแห้ง ร่วง แล้วก็ลามไปติดใบอื่น กิ่งอื่นได้

ป้าเช็งแนะนำวิธีจัดการแบบนี้นะ:

1. ตัดแต่งด่วนๆ: รีบตัดส่วนที่เป็นโรคออกให้หมด ทั้งใบและกิ่งเล็กๆ ที่โดนเชื้อราเกาะ แล้วเอาไปเผาทำลายไกลๆ สวนเลยนะ อย่าทิ้งไว้แถวนั้นเด็ดขาด เดี๋ยวเชื้อลาม
2. เปิดทางลมทางแดด: ตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่งๆ ให้แดดส่องถึงโคนต้น ลมพัดผ่านได้สะดวก ช่วยลดความชื้นสะสม ซึ่งเป็นบ้านของเชื้อรา
3. ฉีดพ่นยา:
   • สายอินทรีย์: ใช้ เชื้อราไตรโคเดอร์มา หรือ บาซิลลัส ซับทิลิส (บีเอส) ผสมน้ำฉีดพ่นให้ทั่วทั้งต้น โดยเฉพาะบริเวณที่เคยเป็นและทรงพุ่มด้านใน ฉีดป้องกันช่วงฝนชุกจะดีมาก
   • สายเคมี (ถ้าจำเป็น): หากระบาดหนัก อาจต้องใช้ยาเคมีช่วย เช่น คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ หรือ แมนโคเซบ สลับกับกลุ่มยาอื่น เพื่อป้องกันเชื้อดื้อยา ฉีดพ่นตามคำแนะนำบนฉลากนะจ๊ะ

รีบจัดการเลยนะหลาน อย่าปล่อยทิ้งไว้ ต้นไม้จะได้กลับมาแข็งแรงไวๆ มีอะไรมาถามป้าได้อีกนะ สู้ๆ จ้ะ