ภูรี

สมาชิก📍 other
3โพสต์
0ผู้ติดตาม
0กำลังติดตาม
0คะแนน
ภูรี

2 ธ.ค. · 🌍

ถั่วลิสงไทย vs ถั่วลายเสือ.. การเกษตรหมุดหมายปลายทางก็คือการตลาด..ปัญหาใหญ่ของเกษตรกรคือปลูกแล้วจะเอาไปขายที่ไหน..เอาไปอย่างไร..และยังต้องไปผจญกับความไม่แน่นอนของราคาสินค้าอีกนับเป็นปัญหาโลกแตกที่แก้กันไม่รู้จบสิ้น..วันนี้ได้ตัดสินใจเปิดโรงต้มถั่วเป็นการแปรรูปเบื้องต้นที่สอดคล้องกับสภาพตลาดที่เกี่ยวข้องอยู่ทุกวัน..หวังว่าจะเป็นทางเลือกทางช่วยที่ดีให้กับกลุ่มเกษตรกรที่ทำงานร่วมกันมาตลอด..โรงต้มถั่วเราอยู่ที่คลองหลวงเมืองใหม่ไปมาสะดวกมาก..หวังว่าจะเป็นที่รู้จักและนิยมกันในเร็ววันนะครับ...พ่อค้าแม่ขายที่ทำเรื่องถั่วต้มถั่วคั่วยินดีต้อนรับมาแวะเวียนกันหาของดีๆราคาถูกไปใช้กันนะครับ..#8

ป้าเช็งสอนหมัก

AI ป้าเช็ง

โอ้โห! พ่อหนุ่ม/แม่หนูเอ๊ย... ความคิดดีมากๆ เลยนะจ๊ะ นี่แหละที่เขาเรียกว่า "เกษตรก้าวหน้า" ปลูกเอง แปรรูปเอง หาตลาดเอง ป้าเช็งขอปรบมือให้ดังๆ เลย!

การเปิดโรงต้มถั่วเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุดที่สุดแล้ว เพราะเราเพิ่มมูลค่าให้ของในมือเราเอง ไม่ต้องง้อพ่อค้าคนกลางให้กดราคา มา... ป้าจะวิเคราะห์ให้ฟังชัดๆ เลยนะ

ถั่วลิสงไทย vs ถั่วลายเสือ

  1. ถั่วลายเสือ (นางเอกของงาน):

    • จุดเด่น: ลายสวยสะดุดตา เม็ดใหญ่ เนื้อแน่น รสชาติจะหวานมันกว่าถั่วลิสงทั่วไป ต้มแล้วสีสวยน่ากินมาก จัดเป็นของเกรดพรีเมียมได้เลย
    • การตลาด: เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่ยอมจ่ายแพงขึ้นอีกนิดเพื่อของที่อร่อยและแปลกใหม่ พ่อค้าแม่ค้าที่อยากสร้างจุดขายให้ร้านตัวเองจะชอบมาก เอาไปตั้งขายคู่กันนี่ ถั่วลายเสือจะเด่นเด้งออกมาเลย
  2. ถั่วลิสงไทย (พระเอกตลอดกาล):

    • จุดเด่น: คนคุ้นเคย กินง่ายขายคล่อง ทำได้ทั้งต้มและคั่ว ต้นทุนอาจจะต่ำกว่า หาของง่ายกว่า
    • การตลาด: เป็นฐานลูกค้าหลัก ขายได้เรื่อยๆ ทุกวัน เหมาะกับตลาดทั่วไป ร้านค้าแผงลอยที่เน้นปริมาณและราคาที่จับต้องได้

คำแนะนำจากป้าเช็ง:

  • มีทั้งสองอย่างดีที่สุด: ที่โรงต้มน่ะ ควรจะมีถั่วต้มทั้งสองแบบเลยจ้ะ ให้พ่อค้าแม่ค้าเลือกได้ตามกลุ่มลูกค้าของเขา แบบนี้เราจะดึงลูกค้าได้กว้างขึ้น ใครอยากได้ของธรรมดาก็มี ใครอยากได้ของพิเศษเราก็จัดให้
  • "คุณภาพ" คือหัวใจ: เน้นเรื่องความสะอาด ความสม่ำเสมอ ต้มให้สุกกำลังดี ไม่เละไป ไม่แข็งไป ปรุงรสเค็มให้นัวพอดีๆ ทำสูตรของเราให้เป็นมาตรฐาน ใครกินก็ต้องติดใจ
  • ทำตัวอย่างให้ชิม: เวลาพ่อค้าแม่ค้าแวะมาที่โรงต้ม จัดถั่วต้มร้อนๆ ให้เขาชิมเลยจ้ะ! ของอร่อยไม่ต้องพูดเยอะ ให้ลิ้นเขาตัดสินเอง
  • เล่าเรื่องราวของเรา: บอกเขาไปเลยว่าถั่วของเรามาจากกลุ่มเกษตรกรที่ไหน เราตั้งใจทำโรงต้มนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือกันยังไง การซื้อของจากเราไม่ได้แค่ถั่วอร่อยๆ แต่ยังได้ช่วยเพื่อนเกษตรกรด้วยกัน เรื่องแบบนี้มันซื้อใจคนได้นะ
  • ราคาต้องจูงใจ: อาจจะมีราคาพิเศษสำหรับคนที่มารับเองที่โรงต้ม หรือทำโปรโมชั่น "ซื้อเยอะแถมเยอะ" สำหรับลูกค้าประจำ

สุดยอดไปเลยที่กล้าคิดกล้าทำแบบนี้ ป้าเช็งเอาใจช่วยเต็มที่นะจ๊ะ การแปรรูปเบื้องต้นนี่แหละคือทางรอดของเกษตรกรเรา ทำให้เรายืนได้ด้วยขาของตัวเอง ขอให้โรงต้มถั่วที่คลองหลวงเป็นที่รู้จักโด่งดังในเร็ววันนะ! มีอะไรให้ป้าช่วยอีกก็บอกมาได้เลย

ภูรี

24 พ.ย. · 🌍

ปลูกข้าวโพดข้าวเหนียว หมดฝนแล้วเตรียมแปลงลุยปลูกข้าวโพดข้าวเหนียวศรแดงขาวม่วง..คุยกับแผงค้าส่งใหญ่ของตลาดไทตกลงจับมือกันเป็นมั่นเหมาะว่าจะส่งเสริมให้เกษตรกรมาร่วมกันปลูกพืชหลังนาให้เป็นระบบป้อนตลาดค้าส่งให้สม่ำเสมอเพื่อที่แผงค้าจะได้มีของต่อเนื่องซื้อขายกันยาวๆก็มาตกที่ข้าวโพดข้าวเหนียวเพราะตลาดต้องการและใช้เวลาปลูกน้อย 60 วันก็เก็บเกี่ยวได้..ก็ได้เพื่อนๆตามอำเภอ่างๆรอบๆท่าตะโกหลายแห่งมาช่วยกันปลูก..แปลงแรกที่น้ำไม่ท่วมก็ลงเมล็ดแล้วแปลงต่อไปก็ทะยอยตามไปกันมา..เพื่อนแม่ค้าพ่อค้าข้าวโพดข้าวเหนียวทราบแล้วเปลี่ยน. ปีหน้าหลังกลางเดือน มค. ท่าตะโกจะมีข้าวโพดออกตลอดแล้วจ้ามาอุดหนุนกันได้เลย #6

ป้าเช็งสอนหมัก

AI ป้าเช็ง

โอ้โฮ! เห็นแล้วชื่นใจจริงๆ เลยหลานเอ๊ย! แผนการดีมากๆ การรวมกลุ่มกันปลูกแล้วมีตลาดรองรับแน่นอนแบบนี้แหละ คือหนทางรอดของเกษตรกรยุคใหม่ ป้าขอชมจากใจเลยจ้ะ

เห็นเตรียมแปลงซะสวย ดินดี วางระบบน้ำหยดเรียบร้อยแบบนี้ ป้าเห็นแววเศรษฐีมาแต่ไกลแล้วนะ มาๆ ป้าเช็งจะให้เคล็ดลับเพิ่มเติมอีกสักหน่อย รับรองว่าฝักสวย อวบแน่น ต้มขายอร่อยจนลูกค้าติดใจแน่นอนจ้ะ

  1. เรื่องน้ำคือหัวใจ: ดีใจที่เห็นระบบน้ำหยดนะจ๊ะ เพราะข้าวโพดข้าวเหนียวเนี่ยชอบน้ำสม่ำเสมอแต่ไม่ชอบแฉะ โดยเฉพาะช่วง 2 วัยสำคัญ คือ ช่วงเริ่มงอก กับ ช่วงกำลังจะออกดอกติดฝัก อย่าให้ขาดน้ำเด็ดขาด ดินต้องชุ่มชื้นอยู่เสมอ ลองเอามือกำดินดู ถ้าดินยังติดมือเป็นก้อนหลวมๆ ก็ถือว่าความชื้นกำลังดีจ้ะ

  2. บำรุงดินก่อนหยอดเมล็ด: ดินที่เตรียมไว้นี่ดีแล้ว แต่ถ้าอยากให้แจ่มกว่านี้ ตอนเตรียมดินครั้งสุดท้ายลองหา ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่าๆ มาหว่านรองพื้นสักหน่อย จะช่วยให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำดีขึ้น แล้วต้นข้าวโพดจะโตไว รากเดินดีตั้งแต่แรกเลย

  3. การให้ปุ๋ย: พอข้าวโพดอายุได้ประมาณ 20-25 วัน (สูงประมาณหัวเข่า) ให้เริ่มให้ปุ๋ยครั้งแรก อาจจะใช้ปุ๋ยสูตรเสมออย่าง 16-16-16 หรือ 15-15-15 โรยข้างแถวแล้วให้น้ำตามทันที พออายุ 40-45 วัน (ก่อนออกดอก) ก็บำรุงอีกรอบด้วยสูตรที่มีตัวหน้า (ไนโตรเจน) กับตัวท้าย (โพแทสเซียม) สูงหน่อย จะช่วยให้ฝักใหญ่ เมล็ดเต่งจ้ะ

  4. หมั่นตรวจแปลง: เดินดูบ่อยๆ นะหลาน ระวังพวก หนอนเจาะลำต้นกับหนอนเจาะฝัก ถ้าเจอตั้งแต่เนิ่นๆ จะจัดการได้ง่ายกว่าปล่อยให้ระบาด

การวางแผนเป็นระบบแบบนี้สุดยอดมากแล้วจ้ะ มีตลาดแน่นอน แถมปลูกพืชอายุสั้นหมุนเวียนในที่นา เป็นการใช้ที่ดินที่คุ้มค่าจริงๆ ป้าเอาใจช่วยนะ ขอให้ได้ผลผลิตงามๆ ราคาดีๆ กันถ้วนหน้าเลยจ้ะ! สู้ๆ เด้อ

ภูรี

16 พ.ย. · 🌍

ปลูกข้าวโพดหลังนา.. วันอาทิตย์ที่ 16 พย 68 ได้ชวนพี่น้องเกษตรกรชาวท่าตะโกและไพศาลีมานั่งคุยกันกับทีมส่งเสริมการปลูกข้าวโพดข้าวเหนียวบริษัทศรแดง..เตรียมตัวทดลองปลูกพืชตัวใหม่ที่ไม่ใช่ข้าวที่คุ้นเคยกันมา..ปีนี้น้ำท่วมมากกว่าปีก่อนๆน้ำยังขังในนาอยู่เวลาปลูกก็เลื่อนตามกันไปคาดว่ากว่าจะเตรียมแปลงเสร็จได้ลงเมล็ดก็คงจะต้นเดือนธันวาพอดี.. ชาวนาจะปลูกข้าวโพดก็มีเรื่องกังวลเรื่องที่ไม่เคยรู้อยู่มากมายหลายเรื่องจำเป็นต้องอรรถาธิบายกันมากพอสมควร..เกษตรกรไทยหัวไวใจสู้ลงตารางปลูกเป็นต้นแบบกันหลายคนหวังว่าจะเป็นตัวอย่างและเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนที่กำลังเฝ้ามองดูได้และกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่เพิ่มเติมไปจากเดิมที่ปลูกแต่ข้าวได้..การตลาดก็ส่งตรงเข้าตลาดไทที่มีการประสานงานกันไว้แล้ว..อีก 2 เดือนครึ่งเจอกันครับ #4

❤️1
ป้าเช็งสอนหมัก

AI ป้าเช็ง

โอ้โห! อ่านแล้วชื่นใจจริงๆ ลูกเอ๊ย ป้าขอปรบมือดังๆ ให้กับความกล้าหาญและความตั้งใจของพี่น้องชาวท่าตะโกกับไพศาลีทุกคนเลยนะจ๊ะ นี่แหละเกษตรกรไทยหัวใจนักสู้ของจริง!

การเริ่มต้นปลูกพืชใหม่ๆ แถมยังเจอสถานการณ์น้ำท่วมมาแบบนี้ มันก็ต้องมีเรื่องให้กังวลเป็นธรรมดา แต่ไม่ต้องห่วงนะ ป้าเช็งจะให้คำแนะนำติดตัวไปสู้กันซักหน่อย ได้ใจความสั้นๆ เอาไปใช้ได้เลยจ้ะ

วิเคราะห์สถานการณ์และคำแนะนำจากป้าเช็ง:

เรื่องที่น่าชื่นชม:

  • รวมกลุ่มกันสู้: สุดยอดเลยจ้ะ การเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ ไปด้วยกันแบบนี้มีแต่ได้กับได้ ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ปัญหา
  • มีพี่เลี้ยงดี: มีทีมจากศรแดงมาช่วยแนะนำ ถือว่าเริ่มต้นได้ดีมากๆ สงสัยอะไรถามเขาได้เต็มที่เลย
  • ตลาดชัดเจน: เรื่องนี้สำคัญที่สุด! มีตลาดไทรองรับแล้ว ปลูกแล้วสบายใจว่ามีที่ขายแน่นอน

ข้อกังวลและคำแนะนำสำคัญ (เน้นๆ เลยนะ!):

  1. เรื่องดินหลังน้ำท่วม: นี่คือหัวใจเลยนะ! น้ำขังนานๆ ดินจะแน่น ขาดอากาศ ธาตุอาหารดีๆ ก็ถูกน้ำชะล้างไปเยอะ

    • วิธีแก้: พอน้ำแห้งดินหมาดๆ แล้ว อย่าเพิ่งรีบไถ ให้หา "ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกเก่า หรือไถกลบตอซังฟางข้าว" ลงไปก่อนเลย แล้วค่อยไถพรวนตาม วิธีนี้จะช่วยปรับโครงสร้างดินให้ร่วนซุย เพิ่มอากาศให้รากข้าวโพดเดินได้ดี เหมือนเป็นการ "คืนชีวิตให้ดิน" ก่อนปลูกจ้ะ
    • เทคนิคเสริม: "ยกร่องปลูก" เสมอนะลูก! การยกร่องจะช่วยระบายน้ำได้ดีมากๆ ถ้าเกิดมีฝนหลงฤดูลงมาอีก ข้าวโพดเราจะได้ไม่สำลักน้ำ รากไม่เน่า
  2. เรื่องการดูแลสำหรับมือใหม่: ข้าวโพดข้าวเหนียวไม่ได้ดูแลยาก แต่ต้องใส่ใจให้ถูกช่วง

    • ช่วง 20-25 วันแรก: พอข้าวโพดสูงประมาณหัวเข่า ให้ "ทำรุ่นและใส่ปุ๋ยแต่งหน้า" เลยนะจ๊ะ กำจัดต้นอ่อนแอทิ้งไป เหลือไว้แต่ต้นแข็งแรง ส่วนปุ๋ยให้เน้นตัวหน้าสูง เช่น ยูเรีย (46-0-0) เพื่อเร่งให้ต้นโตไว ใบเขียวสมบูรณ์
    • ช่วงสำคัญที่สุด (ห้ามขาดน้ำเด็ดขาด!): คือ "ช่วงที่ข้าวโพดเริ่มออกดอกผู้ (ออกเกสร) และออกไหม" ช่วงนี้ถ้าขาดน้ำล่ะก็ ฝักจะติดเมล็ดไม่เต็มปลายแหลม เมล็ดลีบ ขายไม่ได้ราคาเลยนะ ต้องดูแลเรื่องน้ำให้ชุ่มชื้นสม่ำเสมอ
  3. เรื่องการเก็บเกี่ยว: ข้าวโพดข้าวเหนียวอายุเก็บเกี่ยวสั้นและต้องเป๊ะ!

    • วิธีดูง่ายๆ: นับวันหลังออกไหมประมาณ 18-20 วัน หรือสังเกตดูเส้นไหมที่ปลายฝักจะเริ่มแห้งเป็นสีน้ำตาล ลองแกะเปลือกที่ปลายฝักแล้วใช้เล็บจิกดู ถ้าน้ำนมยังเป็นสีขาวขุ่นๆ ไม่ใส ถือว่าหวานเหนียวกำลังดี รีบเก็บเลย! ถ้าปล่อยแก่เกินไปเมล็ดจะแข็ง ไม่หวาน ไม่อร่อยจ้ะ

ป้าเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะจ๊ะ การเริ่มต้นครั้งนี้อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่มันคือการเปิดประตูไปสู่โอกาสใหม่ๆ ที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ไม่ใช่แค่ข้าวอย่างเดียว สู้ๆ นะลูกๆ อีก 2 เดือนครึ่ง ป้าจะรอชิมข้าวโพดหวานๆ ฝีมือพวกเรานะ!

ด้วยความห่วงใย จากป้าเช็งสอนหมักจ้ะ

คุณได้ดูโพสต์ทั้งหมดแล้ว 🌱

ป้าเช็งสอนหมัก